โรควัวบ้า ปัญหาด้านปศุสัตว์ของภูมิภาค |
รศ. สัตวแพทย์หญิง ดร. อัจฉริยา ไศละสูต * ศูนย์ประสานงานข้อมูลสัตวแพทย์ สัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
โรคสมองฟ่ามติดต่อเป็นโรคที่ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของระบบประสาทส่วนกลางและตายในที่สุด สาเหตุของโรคคือ โปรตีนชนิดติดต่อ เรียกว่า พรีออน (PRION) ทำให้เรียกโรคนี้อีกชื่อว่า โรคพรีออน (PRION DISEASEs) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีคุณสมบัติทนต่อเอนไซม์ย่อยสลายโปรตีน ความร้อนและสารเคมี ระยะฟักตัวของโรคนาน 2 5 ปี การติดต่อของโรควัวบ้า มีสาเหตุจากการปนเปื้อนของซากสัตว์ในอาหารวัวซึ่งเปลี่ยนแปลงกรรมวิธีการผลิต โดยในปี ค.ศ. 1988 เนื้อและผลิตภัณฑ์จากกระดูกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ห้ามนำไปผสมอาหารให้แก่ปศุสัตว์ เช่น สุกร, ม้า. ไก่ และปลา ความสำคัญด้านสาธารณสุข ระหว่างปี ค.ศ. 1995 - 1998 มีรายงานโรค ซี. เจ. ดี. ชนิดv CID ( variant CID) ประเทศอังกฤษ 39 ราย ในฝรั่งเศส 1 ราย ซึ่งผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ย 29 ปี ทำให้มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวกับการรับประทาน ผลิตภัณฑ์จากวัวที่ป่วยเป็นโรควัวบ้า เนื่องจากโครงสร้างของยีนที่สร้างโปรตีนพรีออนในวัว คล้ายคลึงกับยีนในคน เป็นผลทำให้เกิดวิกฤตการณ์เนื้อวัว(BEEF CRISIS) ในประเทศอังกฤษ สหภาพยุโรปและประเทศทั่วโลก ห้ามการนำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์จากวัวของประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 อังกฤษได้ใช้มาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัด ป้องกันการปนเปื้อนของเนื้อและผลิตภัณฑ์จากวัวในอาหารของมนุษย์และสัตว์ โรควัวบ้าในอังกฤษระบาดสูงสุดในปี ค.ศ. 1993 ได้มีการออกกฎห้ามขายเนื้อจากวัวอายุมากกว่า 30 เดือน (OVER THIRTY MONTHS SLAUGHTER SCHEME, OTMS) ทำให้อุบัติการณ์ของโรคลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ส่วนการระบาดพบการกระจายของโรคไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ การพัฒนาการวินิจฉัยโรควัวบ้า เป็นอีกปัจจัยในการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม และเฝ้าระวังโรคการสังเกตอาการทางประสาท โดยสัตวแพทย์ผู้ชำนาญร่วมกับการวินิจฉัยของห้องปฏิบัติการ การตรวจสมองวัวป่วย ทางจุลพยาธิวิทยาตรวจหารอยโรครูพรุนในเนื้อสมอง (SPONGIFORM DEGENERATION) ร่วมกับทางอิมมูนโนฮีสโตเคมี ตรวจหา SCRAPIE ASSOCIATED FIBRILS, (SAFs) ทางกล้องจุลทัศน์อิเลคตรอน รวมทั้งการตรวจกรอง (SCREENING TEST ) จากตัวอย่างสมองโดยใช้ชุดตรวจสอบสำเร็จรูป ตรวจหาโปรตีนพรีออนจาก EUROPEAN COMMISSION,(1990) เช่น PRIONICS®(IMMUNOBLOTTING TEST), ENFER®(ELISA TEST),CEA®(IMMUNOASSAY TEST) ในปัจจุบันได้พัฒนาการตรวจสอบในสัตว์ที่ยังมีชีวิตโดยเก็บตัวอย่าง เช่น เนื้อเยื่อต่อมทอนซิล น้ำไขสันหลัง เลือด และปัสสาวะ เป็นต้น ซึ่งการตรวจสอบต่างๆเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาความแม่นยำ มาตรการการทำงานกับโรควัวบ้า มีการควบคุมอย่างเคร่งครัดเนื่องจากคุณสมบัติการติดต่อในสัตว์และมนุษย์ ซึ่งได้กำหนดให้อยู่ในระดับ P3 ( EU COUNCIL DIRECTIVE,1990) สำหรับประเทศไทยยังไม่มีอุบัติการณ์ของโรควัวบ้ารัฐบาลให้ความสำคัญในด้านการค้าระหว่างประเทศ และมาตรการการนำเข้า สินค้าปศุสัตว์ ได้วางแผนเฝ้าระวังโรควัวบ้าในระดับต่างๆ ตามกรอบ แนวทางของ OIE (OFFICE OF INTERNATIONAL DES EPIZOOTIES, 1996) โดยความร่วมมือระหว่างกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์และภาคเอกชน โดยสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ด้านชันสูตร มาตรฐานห้องปฏิบัติการจะได้รับการอบรม การวินิจฉัยและเฝ้าระวังโรคอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความมั่นใจด้านการปศุสัตว์ของประเทศและความปลอดภัยของผู้บริโภค
|
เอกสารและข้อมูลอ้างอิง
|