สิ่งหนึ่งที่มักเกิดกับนักสู้ผู้ชาญชัย
คือ อาการเจ็บแข้ง เจ็บขา
บวมตามร่างกาย
ประกอบกับตัวร้อนเป็นไข้
ซึมและไม่กินอาหาร
นอนซมอยู่วันสองวันก็จะมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
ประกอบกับน้ำเลือดปนหนอง
กองเป็นหย่อมๆ ตามพื้น
ตลอดจนแปดเปื้อนบนขนตามตัวทั่วไป
หากท่านผู้หวังดีพยายามจับหรืออุ้มขึ้นมา
อาจโดนเจ้าหง่าวแว้งกัดเพราะความเจ็บปวดอย่างไม่เคยปรากฏ
ปรากฏการณ์ที่เล่าไปนี้เป็นผลจากการกัดกันจนเกิดบาดแผลเล็กบ้าง
ใหญ่บ้าง ผิวหนังจึงฉีกขาด
เป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง
และที่สำคัญ
พวกที่อาศัยอยู่ในปากและบนเขี้ยวของแมว
นั่นเอง
แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของแมว
ผู้ตกเป็นเหยื่อของคมเขี้ยว
ยิ่งถ้าแมวตัวนั้นๆ
มีภูมิต้านทานต่ำ
อาจจะเนื่องจากป่วยอยู่แล้ว
ด้วยโรคเอดส์แมว
หรือมะเร็งเม็ดโลหิตขาวอยู่แล้วละก็
เชื้อแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย
ตามบาดแผลจะสามารถเพิ่มปริมาณเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ร่างกายพยายาม
กำจัดเชื้อโรคร้ายด้วยการส่งเม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้ก็จะมีเซลล์
ตลอดจนเนื้อเยื่อของร่างกาย
ที่สูญเสียหรือถูกทำลายปะปนมาสะสมกันอยู่ตรงบริเวณบาดแผล
ดังกล่าวในส่วนที่สึกหรอไป
ยิ่งมีปริมาณสะสมมากขึ้นก็จะรวมตัวกันเป็นหนองขังตัวอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง
มีปริมาณมากขึ้น ทุกวัน
ซึ่งเราเรียกว่า ฝี นั่นเอง
ลักษณะของฝีจะคล้ายถุงมีลักษณะนุ่มนิ่ม
เมื่อสุกงอม
หากจับดูจะรู้สึกว่าร้อนกว่าบริเวณอื่น
รวมถึงสร้างความเจ็บปวดแก่แมวเจ้าของฝี
เมื่อถูกสัมผัส
ตำแหน่งที่มักเกิดฝีซึ่งเป็นผลจากสมรภูมิของเหล่าไอ้หง่าวทั้งหลายได้แก่ขาทั้ง
4 ข้าง แก้ม ไหล่ และสะโพก
หากฝีเหล่านี้ถูกทิ้งไว้จนสุกงอมก็จะยิ่งบวมเต่งมากจนแตกออกมาเอง
ปล่อยให้หนองเลอะเทอะอยู่ภายนอกตลอดจนสามารถแพร่กระจายเข้าสู่กระแสโลหิตไปยัง
อวัยวะภายในอื่นๆ เช่น ช่องอก ปอด
หัวใจ ไต ตับ และสมอง
ฉะนั้นทันทีที่ท่านพบว่าเหมียว
หง่าวแสนรักผ่านสมรภูมิมาละก็ควรตรวจเช็คสภาพร่างกาย
ยิ่งถ้าเดินขาเป๋
มาละก็ให้พึงสังวรณ์ว่าอาจจะเกิดฝีได้ในอนาคต
หากเห็นแผลหรือรอยสะเก็ดจากรู้เขี้ยวละก็ชัวร์
ขอให้ใช้น้ำอุ่นประคบเพื่อเร่งให้ฝีสุก
หากฝีแตกมาแล้วหรือท่านสะกิดให้แตกด้วยปลายเข็มแล้ว
ควรใช้น้ำยาไฮโดรเจนเปอร์อ๊อกไซด์เจือจาง
3 เปอร์เซ็นต์ฉีดล้างไล่หนอง
เศษเนื้อเยื่อ และเลือดออกจาก
ฝีนั้นๆ ทำวันละสัก 3 ครั้ง
พร้อมกับให้กินยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ฝีดังกล่าวจะสามารถหายได้ใน
เร็ววัน
แต่หากว่าฝีนั้นใหญ่หรือแตกมาหลายวันประกอบกับแมวมีไข้สูง
ไม่กินอาหาร
บางตัวถึงขั้นโคม่าก็มี
ฉะนั้นขอให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
มิฉะนั้นอาจไม่มีโอกาสรับเหรียญผ่านศึกนะครับ