รอบรูทวาร

ผศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร

ฟังดูอย่างว่าทะลึ่ง หรือหวาดเสียวนะครับ แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ตรงตามหัวข้อ ตรงไปตรงมา อีกทั้งยังสำคัญยิ่งด้วย คงเหมือนกับในโฆษณา "ลมมันเย็น" นั้นแหละครับ

สิ่งที่พบบ่อยๆ สำหรับผู้เลี้ยงหมาเกี่ยวกับปัญหาที่มาจากบริเวณรอบๆ รูทวาร หรือรูก้นก็คือ มีเลือดสดๆออกมา รอบๆก้นบวมใหญ่ เกิดแผลบริเวณรอบรูก้นแตกออกเป็นหนอง ฯลฯ วันนี้ผมจึงนำประมวลปัญหาดังกล่าวมาขยายความแก่ท่านผู้อ่านต่อไปดังนี้

ต่อมข้างก้นอักเสบ เจ้าต่อมที่ว่าภาษาอังกฤษเรียก Anal Sac มีอยู่ 2 ต่อม ฝังตัวอยู่ด้านข้างของรูก้นทั้ง 2 ข้าง มีหน้าที่ให้สารหล่อลื่นก้อนอุจจาระ ตลอดจนขับสารที่เป็นกลิ่นเฉพาะตัว เพื่อการสื่อสารกับหมาตัวอื่นๆอีกด้วย ฉะนั้นเมื่อต่อมนี้เกิดการอักเสบเพราะการอุดตันขับสารที่ว่าไม่ได้ หรือเกิดการคั่งของของเหลวในต่อมจนบวมโตออกมา เราจึงควรต้องบีบหรือรีดเอาของเหลวที่ว่าออก เป็นครั้งคราวผ่านทางรูเปิดในช่องทวาร โดยรีดต่อมทั้งสองซึ่งตั้งอยู่ตรงตำแหน่ง 4 นาฬิกาและ 8 นาฬิกา (เมื่อสมมุติเอารูก้นเป็นหน้าปัทม์ก็แล้วกัน) ใช้นิ้วบีบจากด้านข้างทั้งซ้ายขวาด้วย นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้อย่างนุ่มนวล อย่าลืมเอาสำลีรองรับของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นร้ายกาจไว้ด้วยนะครับ หากบีบไม่ออกหรือต่อมที่ว่าอักเสบเป็นฝีแล้วแตกออกด้านนอกละก็รีบพาไปพบสัตวแพทย์เถอะครับ

ดากทะลัก ภาษชาวบ้านเขาเรียกอย่างนี้ ภาษที่ใช้อธิบาย คือ ลำไส้ใหญ่ตอนปลาย (Rectum) เคลื่อนออกจากที่อยู่ปกติ ปลิ้นออกมาจากในช่องท้อง เรียกว่า Rectal prolapse เจ้าของจะเห็นว่าบริเวณรูทวารมีท่อนหรือแท่งเนื้อ ดูคล้ายไส้กรอกหรือกุนเชียงสีแดงๆ ห้อยออกมาข้างนอกรูทวารยาวบ้างสั้นบ้างขึ้นกับความรุนแรงนั่นแหละครับ ส่วนของลำไส้ใหญ่ตอนปลาย

สาเหตุของการทะลักนี้ อาจมาจากการท้องร่วงรุนแรงถ่ายบ่อยครั้งจนลำไส้ทะลัก หรือท้องผูกมากทำให้หมาต้องเบ่ง อย่างรุนแรงจนลำไส้ปลิ้นทะลักออกมา ตลอดจนเนื้องอกหรือมะเร็งของลำไส้ก็อาจเป็นเหตุได้เช่นกัน

หากพบว่าส่วนที่ทะลักออกมาไม่มากนักละก็ลองดันกลับเข้าไปดู แล้วจึงพาไปหาหมอ แต่ถ้าเกินกว่าจะทำได้เพราะยาวมากหรือบาดแผลร่วมด้วย ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดแล้วห่อหุ้มด้วยสำลีที่ชุบน้ำโปะพันไว้เพื่อไม่ให้ส่วนของลำไส้แห้งหรือเกิดบาดแผล จากนั้นรีบนำส่งสัตวแพทย์เพื่อเยียวยาอย่างเร่งด่วน ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าใดโอกาสดันกลับเข้าไปย่อมยากขึ้น มิหนำซ้ำอาจถึงกับถูกตัดทิ้งก็ได้ครับ

 

กลับไปหน้า "คอลัมน์สัตว์เลี้ยง"