|
ป้อนความตาย ผศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร หัวเรื่องที่ฟังแล้วน่าสยดสยองสำหรับคอลัมน์ บ๊อกๆ เหมียวๆ อย่างที่มิเคยมีมาก่อน ครั้งแรกคิดว่าจะไม่ใช่ชื่อเรื่องเช่นนี้ แต่ก็หาที่เหมาะเจาะกว่านี้มาเขียนมิได้ ทั้งนี้เนื่องจาก ความกระชับและให้ภาพชัดเจน สร้างความตระหนักแก่ผู้เลี้ยง ด้วยเหตุที่ว่า ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีสัตว์ป่วยที่ไม่น่าป่วย ความเจ็บป่วยอันเกิดจากความผิดพลาด เผอเรอ สะเพร่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของผู้เป็นเจ้าของสัตว์หรือเลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้น นั่นก็คือเรื่อง กลืนสายยาง (ป้อนอาหาร) ของลูกนก ลูกนกในตระกูลนกแก้ว (Psittacine) ไม่ว่าจะเป็นลูกนกแก้วโม่ง ลูกนกกระตั้ว ลูกนกมาคอว์ ฯลฯ ซึ่งเป็นลูกนกราคาแพงนิยมนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน การที่จะเลี้ยงให้เชื่อง และพูดเลียนเสียง มนุษย์ได้ดีจำเป็นต้องเลี้ยงเขาตั้งแต่เป็นลูกนกตัวแดงๆ มีขนอุยขึ้นหรอมแหรม ในการนี้ผู้เลี้ยงต้องทำตัว เป็นพ่อแม่นกคือจัดหาอาหารมาป้อน เพราะเขายังจิกกินเองไม่ได้ อาหารที่ใช้เป็นอาหารเหลวสำเร็จรูป ถูกป้อนด้วยกระบอกฉีดยา ตอนปลายต่อด้วยท่อยางหลากหลายขนาด เช่น ขนาดยางไส้ไก่จักรยาน ไปจนถึงท่อยางของสายน้ำเกลือ อาหารจะถูกป้อนผ่านท่อยางเหล่านี้ซึ่งสอดผ่านปากลงสู่หลอดอาหาร เข้าถึงกระเพาพัก การป้อนอาหารเหล่านี้ถ้าทำถูกวิธีไม่มีแทรกซ้อน ลูกนกก็จะเจริญเติบโตแข็งแรงดี แต่บางกรณีก็เป็น การป้อนความตาย สู่ลูกนกเหล่านั้น เพราะอะไรนะหรือ ? สิ่งที่เกิดบ่อยที่สุดคือ สายยางหรือท่อยางป้อนอาหารหลุดจากกระบอกฉีดยาขณะป้อนอาหาร มันจะถูกกลืนเข้าสู่กระเพาะพัก เป็นส่วนมาก ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจเคลื่อนลึกลงไปสู่กระเพาะบดและลำไส้ ทำให้เกิดปัญหาลำไส้อุดตัน ลูกนกจะกินอะไรไม่ได้พยายามสำรอกบ่อยครั้งแต่ไม่สำเร็จ ผลสุดท้ายคือตาย วิธีป้องกันโศกนาฎกรรมนี้ คือ ใช้ท่อยางหรือหลอดป้อนอาหารที่ติดกับกระบอกฉีดยาอย่างแน่นหนา ไม่หลวมหลุดง่าย หรือเปลี่ยนมาใช่ท่อโลหะสำหรับป้อนอาหารที่มีความยาวเพียงพอก็ไม่สามารถหลุดเข้ากระเพาะ หากพบว่าท่อยางนั้นหลุดลงหลอดอาหารเข้าไปให้รีบใช้ปากคีบดึงออกมาหรือถ้าหลุดลึกเข้าไปกว่านั้น ให้รีบนำส่งสัตวแพทย์เพื่อใช้ปากคีบพิเศษ เข้าไปดึงออกมาหรืออาจใช้การผ่าตัดกระเพาะพัก หากไม่สามารถเอาออกทางปากโดยตรงได้ จำไว้ว่าท่อยางเหล่านี้ไม่มีวันย่อยสลายไปได้เอง ในขณะที่ลูกนกยังมีชีวิตอยู่กว่าจะสลายตัวหมดรับรองว่าลูกนกตายไปก่อนแน่ ? |
กลับไปหน้า "คอลัมน์สัตว์เลี้ยง" |