ผศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร

แมวทั่วไปเมื่ออายุเกิน 6 เดือนแล้วจะเริ่มอาการ “แพ้หมัด” ให้ปรากฏเห็น ที่ว่าแพ้นั่นก็คือ แพ้น้ำลายของเจ้าหมัดที่มันปล่อยออกมาขณะใช้ปากกัดผ่านผิวหนังแมว น้ำลายหมัดจะช่วยให้เลือดแมวถูกดูดเข้าสู่ตัวหมัดสะดวกขึ้น ขณะเดียวกันมันก็เป็นโปรตีนแปลกปลอม ที่เข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้แมวเหมียวก่อปฎิกริยาต่อต้านจนแสดงออกเป็นลักษณะผิวหนังอักเสบ แดง และคันมาก บางทีมีน้ำเหลืองเยิ้มแฉะ ซึ่งมักพบว่าทำให้แมวคันเกาจนขนหลุดร่วงอย่างเด่นชัด ตามบริเวณหลัง คอ และขาพับด้านในอันเป็นตำแหน่งโปรดปรานสำหรับหมัด ท่านอาจพบ เจ้าหมัดตัวร้ายวิ่งพล่านตามบริเวณดังกล่าว หรืออาจไม่พบก็ได้ เพราะมันสามารถวิ่งแฝงตัวซุกซ่อนตามขนอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหมัดก็พลาดท่าทิ้งหลักฐานอื่นให้ท่านเจ้าของแมวจับได้คือ “ขี้หมัด” เป็นเศษเลือดที่มันขับถ่ายออกมาติดอยู่ตามขนบริเวณหลังแมว ซึ่งท่านอาจพิสูจน์แยกแยะจากเศษดิน หรือสิ่งสกปรกอื่น โดยนำหลักฐานที่พบเทลงบนกระดาษขาวแล้วหยดน้ำลงไปจนเปียกชื้น หากเป็นขี้หมัดจริงจะเกิดเป็นสีแดงบนกระดาษขาวเนื่องจากเป็นเศษเลือดเจ้าเหมียวนั่นเอง จับตัวได้แล้วใช้ไหมละครับ

อาการแพ้น้ำลายหมัดของแมวนั้นเกิดหนักเบา มากน้อย ก็ขึ้นกับปริมาณหมัด ตำแหน่งการถูกกัด ความอ่อนไหวของแมวแต่ละตัว และความใส่ใจของเจ้าของในการดูแลรักษา

วิธีกำจัดหมัดแมว หมัดเหมียว ทำได้หลายวิธี เช่น ใช้ยาฆ่าหมัดชนิดผงแป้งโรยตัว ผสมน้ำอาบ ใส่ปลอกคอกันหมัด ใช้แปรงตาถี่หรือหวีเสนียดสางเอาตัวหมัดออก ใช้ยาฆ่าหมัดชนิดพ่นเป็นสเปรย์ หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง จนล่าสุดเป็นยากินกำจัดหมัด ลองเลือกใช้ดูจากชนิดอ่อน วิธีง่ายๆ ไปจนรุนแรง และซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาอาการแพ้น้ำลายหมัดด้วย โดยพาเจ้าเหมียวไปพบ สัตวแพทย ์เพื่อรับการรักษาเช่นให้ยาลดอักเสบของผิวหนัง ยาแก้คัน ยาปฏิชีวนะป้องกันเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ฯลฯ